การวิเคราะห์และคำอธิบายของฝ่ายจัดการ
คำอธิบายและวิเคราะห์ฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงาน สำหรับปี 2564
สรุปบทวิเคราะห์ของผู้บริหาร
กลุ่มบริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จํากัด (มหาชน) ยังคงดำเนินกิจการให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคง ถึงแม้ว่าธุรกิจของกลุ่มบริษัทจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ทั้งในส่วนของธุรกิจเหล็กและธุรกิจพลังงาน ซึ่งความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในระหว่างปี นั้นสามารถวิเคราะห์แยกตามธุรกิจได้ดังนี้
ธุรกิจเหล็กที่เป็นการรับจ้างผลิต OEM นั้น บริษัทได้หยุดกระบวนการผลิตสินค้าในช่วง Covid-19 โดยทำการพัฒนาปรับปรุงสินค้าและกระบวนการผลิตและบริษัทยังได้ขยายโรงงานเพื่อรองรับการผลิตสินค้าเพิ่มอีก 1 โรงงานโดยมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประเภทของสินค้าให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังส่งผลดีต่อกลุ่มธุรกิจเหล็กคือ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้ดียิ่งขึ้น โดยบริษัทคาดว่าจะได้รับคำสั่งการรับจ้างผลิตสินค้าในไตรมาสที่ 1 ปี 2555
ธุรกิจพลังงาน กลุ่มบริษัทได้ทยอยส่งมอบโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นรวมทั้งสิ้น 4 โครงการซึ่งมีกําลังการผลิตรวม 5.1 เมกะวัตต์ดีซีแล้วเสร็จ ทำให้กลุ่มบริษัทรับรู้กําไรจากการขายโครงการโรงไฟฟ้าดังกล่าวรวม 45.3 ล้านบาท การขายโครงการโรงไฟฟ้านั้นเป็นไปตามสัญญาที่กลุ่มบริษัทได้ลงนามในเดือนธันวาคม 2563 ซึ่งเป็นไปตามแผนกลยุทธ์ของกลุ่มบริษัท ในการสร้างความสามารถในการทำกำไรสูงสุดและต่อยอดธุรกิจโรงไฟฟ้าให้เจริญเติบโตอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม กลุ่มบริษัทยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ของ Covid-19 ซึ่งกลับมาแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ทำให้เป็นสาเหตุของการส่งมอบโครงการโรงไฟฟ้าที่เหลือเกิดความล่าช้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ฝ่ายบริหารคาดว่าจะสามารถส่งมอบโครงการที่เหลืออีกจำนวน 4 โครงการซึ่งมีกําลังการผลิตรวม 56.9 เมกะวัตต์ดีซีได้ภายในไตรมาสที่ 1 ปี 2565 นี้
สืบเนื่องจากพลังงานทางเลือก (Green Energy) นั้นเป็นหนึ่งในกระแสของ Mega Trend ที่ทั้งภาครัฐบาลและภาคเอกชน ต่างๆ ทั่วโลกเริ่มปรับตัวให้ความสนใจและสนับสนุนในการใช้พลังงานทางเลือกมากขึ้นเรื่อย ๆ และลดการใช้น้ำมันซึ่งมีต้นทุนที่สูงมากขึ้นจึงเป็นโอกาสที่ทำให้กลุ่มบริษัทจะสามารถต่อยอดธุรกิจ โดยการนำกระแสเงินสดที่จะได้รับจากการขายโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น นํามาลงทุนต่อในโครงการโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2564 กลุ่มบริษัทได้ลงนามในสัญญาการซื้อขายไฟฟ้ารูปแบบเอกชนกับเอกชน (Private PPA) รวมทั้งสิ้น 28.15 เมกะวัตต์ดีซีกับผู้ประกอบการเอกชนหลากหลายอุตสาหกรรมและคาดว่าจะสามารถเริ่มทยอยจําหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาสที่ 2 ปี 2555 เป็นต้นไป ทั้งนี้กลุ่มบริษัทยังมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ COD แล้วในประเทศไทยอีก 6.6 เมกะวัตต์ดีซี ดังนั้นกลุ่มบริษัทมีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยรวมทั้งสิ้น 34.75 เมกะวัตต์ดีซี อีกทั้งกลุ่มบริษัทยังมีความพร้อมทางด้านบุคลากรที่มีความรู้ประสบการณ์ และความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยกลุ่มบริษัทได้เริ่มขยาย ธุรกิจในด้านของการให้บริการเป็นผู้ให้คำปรึกษา แนะนํา ติดตั้ง จัดซื้อและก่อสร้างระบบผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานทางเลือกได้อีกทางหนึ่ง
ผลการดําเนินงานในภาพรวมของกลุ่มบริษัทนั้นดีขึ้นเป็นลำดับ สืบเนื่องจากการดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ซึ่งสะท้อน จากการที่บริษัทมีกระแสเงินสดจากการดําเนินงานเป็นบวก และมีมากเพียงพอต่อการจ่ายชําระเงินกู้ยืมและดอกเบี้ยตามกำหนดระยะเวลา อีกทั้งบริษัทยังมีความสามารถในการทำกำไรจากการดำเนินงานสูงถึง 678.67 ล้านบาท (EBITDA Margin) ที่ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาเฉลี่ยร้อยละ 10
การวิเคราะห์ผลการดำเนินงานรวม
ผลการดำเนินงานรวมของบริษัทและบริษัทย่อย | 2564 | 2563 | เปลี่ยนแปลง | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ข้อมูลทางการเงินที่สำคัญ | ข้อมูลทางการเงินที่สำคัญ | |||||||||
ธุรกิจเหล็ก และอื่นๆ | ธุรกิจพลังงานทดแทน | รวม | ธุรกิจเหล็ก และอื่นๆ | ธุรกิจพลังงานทดแทน | รวม | ล้านบาท | % | |||
การดําเนินงานต่อเนื่อง | การดําเนินงานที่ยกเลิก | การดําเนินงานต่อเนื่อง | การดําเนินงานที่ยกเลิก | |||||||
รายได้จากการขายและบริการ | 194.26 | 111.47 | 750.85 | 1,056.58 | 482.70 | 55.65 | 752.00 | 1,290.36 | (233.78) | -18.12% |
หัก ต้นทุนขายและบริการ (ไม่รวมค่าเสื่อมราคา และค่ามัดจําหน่าย) | (75.88) | (57.05) | (134.23) | (267.16) | (393.43) | (9.68) | (137.77) | (540.88) | 273.72 | -50.61% |
กำไรขั้นต้น | 118.38 | 54.41 | 616.62 | 789.42 | 89.27 | 45.97 | 614.24 | 749.48 | 39.95 | 5.33% |
% กำไรขั้นต้นต่อรายได้ | 0.61 | 0.49 | 0.82 | 0.75 | 0.18 | 0.83 | 0.82 | 0.58 | 0.17 | 28.64% |
คำใช้อ้ายในการบริหาร | (44.69) | (111.34) | (23.57) | (179.60) | (66.37) | (75.61) | (5.26) | (147.23 | (32.37) | 21.98% |
กำไรมากการขายเงินลงทุนและสินทรัพย์ถาวร | 4.05 | 47.46 | - | 51.51 | - | - | - | 0.00 | 51.51 | 100.00% |
ส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในกิจการร่วมค้า | - | (0.21) | - | (0.21) | - | (0.04) | - | (0.04) | (0.17) | -435.54% |
รายได้อื่น | 0.64 | 3.73 | 13.17 | 17.54 | 4.90 | 10.03 | 0.93 | 15.86 | 1.68 | 10.61% |
EBITDA | 78.39 | (5.94) | 606.22 | 678.67 | 27.80 | (19.65) | 609.91 | 618.07 | 60.60 | 9.81% |
ค่าเสื่อมราคาและค่าต้อจำหน่าย | (12.59) | (32.08) | (355.70) | (400.38) | (48.65) | (36.86) | (369.25) | (454.76) | 54.38 | -11.96% |
EBIT | 65.79 | (38.03) | 250.52 | 278.29 | (20.85) | (56.51) | 240.66 | 163.30 | 114.99 | 70.41% |
ต้นทุนทางการเงิน | (95.97) | (73.47) | (212.85) | (382.29) | (100.71) | (68.73) | (232.54) | (401.99) | 19.70 | -4.90% |
ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ | (9.13) | 12.70 | (8.62) | (5.05) | 0.01 | 18.42 | (10.57) | 7.86 | (12.92) | -164.25% |
กำไร (ขาดทุนาก้อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน | (39.30) | (98.80) | 29.06 | (109.05) | (121.54) | (106.82) | (2.46) | (230.82) | 121.77 | 52.76% |
ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน, สุทธิ | (2.12) | (1.27) | 0.00 | (3.40) | (0.39) | (61.09) | (0.30) | (61.77) | 58.38 | -94.50% |
กำไร (ขาดทุน) สุทธิเข้าทรับปี | (41.43) | (100.08) | 29.06 | (112.44) | (121.93) | (167.90) | (2.76) | (292.59) | 180.15 | 61.57% |
กำไร (ขาดทุน) ต่อหุ้น (บาทต่อหุ้น) | - | - | - | (0.13) | - | - | - | (0.24) | - | - |
กำไร (ขาดทุน) ต่อหุ้น (บาทต่อหุ้น) จำนวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก (ล้านหุ้น) | - | - | - | 800.00 | - | - | - | 800.00 | - | - |
รายได้และต้นทุนขาย
รายได้รวมสำหรับปี 2564 มีจำนวน 1,056.58 ล้านบาท ซึ่งลดลงรวม 233.78 ล้านบาททั้งนี้ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้ของธุรกิจเหล็กซึ่งมีรายได้จากการขาย billets และสินค้าอื่นรวม 223 ล้านบาทในปี 2563 แต่ในปีปัจจุบันไม่มีการขายสินค้าอย่างเป็นสาระสำคัญ รายได้ส่วนใหญ่ของธุรกิจเหล็กในปีปัจจุบันเป็นการให้บริการ OEM ตามสัญญาเท่านั้น ซึ่งส่งผลให้อัตรากําไรขั้นต้นปรับเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 58 เป็นร้อยละ 75 สำหรับธุรกิจขายไฟในต่างประเทศ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นสาระสำคัญ
อย่างไรก็ตามรายได้ของส่วนงาน “การดําเนินงานต่อเนื่อง” นั้นเพิ่มขึ้น 56 ล้านบาทแต่อัตรากําไรขั้นต้นนั้นลดต่ำลงจากร้อยละ 83 เป็นร้อยละ 49 ทั้งนี้เนื่องจากรายได้ของการดําเนินงานต่อเนื่องในปีปัจจุบันนั้นได้รวมรายได้จากการให้บริการเป็นที่ปรึกษาการลงทุนและติดตั้งระบบผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จากการขยายฐานธุรกิจโดยใช้ความรู้ความสามารถของบุคลากร และประสบการณ์ในการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในต่างประเทศ โดยกลุ่มบริษัทมีรายได้จากการให้บริการ ดังกล่าวจำนวน 60 ล้านบาทและมีอัตรากําไรขั้นต้นเฉลี่ยร้อยละ 14 ในขณะที่ปีที่ 2563 มีรายได้จากการให้บริการอย่างไม่เป็น สาระสำคัญ จึงส่งผลต่ออัตรากําไรขั้นต้นเฉลี่ยในปีปัจจุบันลดลง
EBITDA Margin เพิ่มขึ้น 60.6 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 9.81 ซึ่งสามารถวิเคราะห์แยกตามประเภทธุรกิจดังต่อไปนี้
ธุรกิจเหล็ก : EBITDA Margin จำนวน 78.39 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการที่บริษัทเรียกเก็บค่าบริการ OEM เต็ม 12 เดือน แต่ในปีที่ ผ่านมามีการพัฒนาและทดสอบสภาพเครื่องจักร ซึ่งแล้วเสร็จในเดือน เมษายน 63 จึงทำให้การให้บริการ OEM มีเพียง 8 เดือนเท่านั้น
ธุรกิจพลังงาน
การดําเนินงานต่อเนื่อง : EBITDA Margin เพิ่มขึ้น 13.71 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการขยายธุรกิจการให้บริการทางด้านที่ปรึกษาการลงทุนและติดตั้งระบบผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งทำให้กลุ่มบริษัทมีรายได้ส่วนเพิ่ม เพื่อนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนต่อไป
การดําเนินงานที่ยกเลิก : EBITDA Margin ไม่เปลี่ยนแปลงอย่างเป็นสาระสำคัญ
กำไรจากการขายเงินลงทุนและสินทรัพย์ถาวร
ในปี 2564 กลุ่มบริษัทมีผลกําไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัทย่อยและโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น (ซึ่งเป็นทรัพย์สินกลุ่มบี) จำนวน 4 โครงการ บริษัทรับรู้กําไรจากการขายโครงการรวมทั้งสิ้น 47.5 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายในการบริหาร
ในภาพรวมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารปรับเพิ่มขึ้น 32.37 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากธุรกิจพลังงานซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับที่ปรึกษากฎหมายและภาษีและที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งทำหน้าที่ในการให้คำแนะนําสำหรับการขายโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศ ญี่ปุ่นรวมประมาณ ซึ่งรับรู้เป็นค่าใช้จ่ายในปีปัจจุบันรวม 24.16 ล้านบาท และบริษัทได้ตั้งค่าเพื่อการด้อยค่าของโครงการระหว่าง ก่อสร้าง 3 โครงการในประเทศญี่ปุ่นรวม 20 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากมีผู้สนใจเสนอซื้อโครงการดังกล่าวเพื่อพัฒนาต่อ อย่างไรก็ ตามบริษัทไม่สามารถเรียกเก็บต้นทุนโครงการบางประเภทได้ เช่น ดอกเบี้ยจ่ายที่รวมเป็นต้นทุนของโครงการตามมาตรฐานการ บัญชีเนื่องจากกฎ Thin-Cap Rules ในประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น
ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนลดลง 61.77 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 94.5 ทั้งนี้ส่วนใหญ่เกิดจากธุรกิจพลังงาน ซึ่งมีเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินที่เป็นสกุลเงินเยน และต้องทำการแปลงค่าเงินกู้ยืมให้เป็นเงินสกุลบาทตามมาตรฐานการบัญชี โดยอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันสิ้นปี 2562 2563 และ 2554 ที่ใช้ในการแปลงค่ามีการเปลี่ยนแปลงดังนี้
- จากกราฟจะเห็นได้ว่า ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นจาก 31 ธันวาคม 2563 รวม 0.04% เมื่อบริษัทแปลงค่าเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินที่ตราไว้เป็นสกุลเงินเยนให้เป็นสกุลเงินบาท บริษัทจะเกิดผลกำไร จากอัตราแลกเปลี่ยน และทำให้มีภาระหนี้สินเงินกู้ยืมธนาคาร (กลุ่มพลังงาน)จะน้อยลง 0.72 ล้านบาท
- ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 ค่าเงินบาทอ่อนค่าจาก 31 ธันวาคม 2562 รวม 5.32% ทำให้เมื่อทำการแปลงค่าภาระหนี้สินจากเงินกู้ยืมธนาคารให้เป็นเงินบาท จะทำให้บริษัทมีภาระหนี้สินเพิ่มมากขึ้น 5.329% และรับรู้ผล ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง
รายงานวิเคราะห์ฐานะการเงินรวม
สินทรัพย์
งบแสดงฐานะการเงินรวม | 31 ธ.ค. 2564 | % common size | 31 ธ.ค. 2563 | % common size | เปลี่ยนแปลง | % |
---|---|---|---|---|---|---|
สินทรัพย์ | ||||||
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดและเงินฝากธนาคารที่มีภาระค้ำประกัน | 817.43 | 8.2% | 624.66 | 6.1% | 192.78 | 30.9% |
ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่น | 425.42 | 4.3% | 457.53 | 4.5% | (32.12) | -7.0% |
สินค้าคงเหลือ | 98.13 | 1.0% | 98.49 | 1.0% | (0.36) | -0.4% |
ลูกหนี้กรมสรรพากร | 119.57 | 1.2% | 138.30 | 1.4% | (18.74) | -13.5% |
สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น | 85.04 | 0.9% | 39.20 | 0.4% | 45.84 | 117.0% |
สินทรัพย์ที่จัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย | 6,223.04 | 62.9% | 7,141.51 | 70.1% | (918.47) | -12.9% |
ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์และสินทรัพย์ไม่มีตัวตน | 1,956.97 | 19.8% | 1,533.34 | 15.0% | 423.63 | 27.6% |
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น | 173.40 | 1.7% | 156.87 | 1.5% | 16.53 | 10.5% |
รวมสินทรัพย์ | 9,898.99 | 100.0% | 10,189.90 | 100.0% | (290.91) | -2.9% |
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 9,898.99 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 290.91 ล้านบาท YoY หรือลดลงร้อยละ 2.9 โดยการลดลงที่สำคัญสามารถวิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้
สินทรัพย์ที่จัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย : ลดลง 918.47 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้
กลุ่มธุรกิจพลังงาน :
- มีการส่งมอบโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ นิฮอนมัตซึ3 โกเรียว ชิบูชิ และ โนกาตะ ให้แก่ผู้ซื้อที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันในประเทศญี่ปุ่นในเดือน มิถุนายน กันยายน และ ธันวาคม 2564 ตามลำดับ จึงส่งผลให้มียอดลดลงรวม 471.8 ล้านบาท
- ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งเกิดจากการแปลงค่างบการเงินในต่างประเทศตามข้อกําหนดของมาตรฐาน การบัญชีจึงทำให้มียอดลดลงรวม 355 ล้านบาท
- บริษัทได้มีการจัดประเภทโครงการโรงไฟฟ้าระหว่างก่อสร้าง 1 โครงการซึ่งมีกําลังการผลิตรวม 2.28 เมกะวัตต์ ดีซีออกจากสินทรัพย์ที่จัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย โดยมีมูลค่ารวม 328 ล้านบาทไปเป็นที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ 258 ล้านบาท และรายการอื่นในงบการเงิน 70 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทจะทำการพัฒนาและก่อสร้างโครงการดังกล่าวต่อไป
- ในระหว่างปี บริษัทได้ลงนามในสัญญาจะซื้อจะขายสำหรับโครงการระหว่างก่อสร้างอีกจำนวน 3 โครงการกับผู้ซื้อในประเทศญี่ปุ่นที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน และ 2 ใน 3 โครงการ ได้ส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อแล้วในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ดังนั้นบริษัทจึงจัดประเภทรายการทั้ง 3 โครงการเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขายรวมมูลค่า 150 ล้านบาท
ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์และสินทรัพย์ไม่มีตัวตน : เพิ่มขึ้น 423.63 ล้านบาทเนื่องจาก
กลุ่มธุรกิจเหล็ก :
- ได้พัฒนาและลงทุนขยายโรงงานเพื่อรองรับการให้บริการ OEM แก่ลูกค้าที่หลากหลายและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาด โดยลงทุนเป็นจำนวน 163 ล้านบาท
กลุ่มธุรกิจพลังงาน :
- มีการจัดประเภทรายการใหม่ของโครงการระหว่างก่อสร้าง 1 โครงการจำนวน 258 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทจะนำมาพัฒนาต่อไป และ
- มีการลงทุนในทรัพย์สินสำหรับโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยที่บริษัทได้ลงนามในสัญญาการซื้อขายไฟระหว่างเอกชน (Private PPA)
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดและเงินฝากธนาการที่มีภาระค้ำประกัน : เพิ่มขึ้น 192.78 ล้านบาท เนื่องจาก
กลุ่มธุรกิจพลังงาน :
- การเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เนื่องจากกระแสเงินสดที่ได้รับจากการขายโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นจำนวน 4 โครงการ รวม 432 ล้านบาทและมีกระแสเงินสดคงเหลือหลังจากนำไปชำระหนี้สินสถาบันการเงินจาก Project Finance โดยบริษัทได้นำเงินคงเหลือดังกล่าวไปฝากธนาการเพื่อเป็นหลักประกันสำหรับวงเงินสำรองของกลุ่มบริษัททั้งในและต่างประเทศ เพื่อใช้หมุนเวียนในกิจการและใช้ในโครงการลงทุนใน โครงการโรงไฟฟ้าต่อไป
รายการอื่นๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์นั้นเป็นไปตามธุรกิจปรกติและไม่มีสาระสำกัญในภาพรวม และเมื่อพิจารณา % common size ของแต่ละรายการเมื่อเทียบกับสินทรัพย์รวมจะเห็นได้ว่าสัดส่วนมิได้เปลี่ยนแปลงอย่างเป็นสาระสำคัญจากปีที่ผ่านมา
หนี้สิน
งบแสดงฐานะการเงินรวม | 31 ธ.ค. 2564 | % common size | 31 ธ.ค. 2563 | % common size | เปลี่ยนแปลง | % |
---|---|---|---|---|---|---|
หนี้สิน | ||||||
เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน | 536.84 | 5.4% | 220.95 | 2.2% | 315.90 | 143.0% |
เจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่น | 294.86 | 3.0% | 146.08 | 1.4% | 148.78 | 101.8% |
เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินและบุคคล/กิจการที่ไม่เกี่ยวข้องกัน | 3,209.30 | 32.4% | 3,244.76 | 31.8% | (35.45) | -1.1% |
หนี้สินตามสัญญาเช่า | 24.85 | 0.3% | 26.76 | 0.3% | (1.91) | -7.1% |
หนี้สินหมุนเวียนอื่น | 94.47 | 1.0% | 10.52 | 0.1% | 83.95 | 798.4% |
หนี้สินที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย | 4,824.51 | 48.7% | 5,547.87 | 54.4% | (723.35) | 13.0% |
หนี้สินภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี | 60.44 | 0.6% | 36.55 | 0.4% | 23.89 | 65.4% |
หนี้สินไม่หมุนเวียนอื่น | 37.73 | 0.4% | 35.18 | 0.3% | 2.54 | 7.2% |
รวมหนี้สิน | 9,083.00 | 91.8% | 9,268.65 | 91.0% | (185.65) | -2.0% |
หนี้สินที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย : ลดลง 723. 35 ล้านบาท ซึ่งวิเคราะห์ได้ดังนี้
กลุ่มธุรกิจเหล็ก :
- สืบเนื่องจากกรส่งมอบโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จำนวน 4 โครงการได้แก่ นิฮอนมัตซึ3 โกเรียว ชิบูชิ และโนกาตะ ให้แก่ผู้ซื้อ ในระหว่างปี บริษัทจึงโอนและชำระภาระหนี้สินที่เกี่ยวข้องกับทั้ง 4 โครงการออกจากบัญชี จึงทำให้มีขอดลดลง โดยส่วนใหญ่เป็นการจ่ายชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินรวม 643 ล้านบาท ที่เหลือเป็นผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เกินจากการแปลงค่างบการเงินในต่างประเทศและหนี้สินอื่นๆ ของโครงการระหว่างก่อสร้างที่บริษัทจะดำเนินการพัฒนาต่อไป
เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืม กสถาบันการเงิน : เพิ่มขึ้น 315.9 ล้านบาท ซึ่งเกิดจาก
กลุ่มธุรกิจเหล็ก :
- ในระหว่างปีกลุ่มธุรกิจเหล็กได้เบิกเงินกู้ยืมในรูปของตั๋วสัญญาใช้เงินกับธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยแห่งหนึ่งเป็นเงิน 154 ล้านบาท
กลุ่มธุรกิจพลังงาน :
- กลุ่มธุรกิจพลังงานได้รับการสนับสนุนวงเงินสินเชื่อในรูปแบบของตั๋วสัญญาใช้เงินและสินเชื่อเพื่อการนำเข้า (Trust Receipt) ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับการลงทุนในโครงการ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย ซึ่งกลุ่มธุรกิจพลังงานอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างระบบผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อรองรับสัญญาการขายไฟระหว่างเอกชน (Private PPA) ซึ่งคาดว่าจะสามารถขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาสที่ 2 ปี 2565 นี้ โดยบริษัทได้เบิกเงินจากวงเงินทั้ง 2 ประเภทในงวดปัจจุบันรวมจำนวน 382 ล้านบาท บริษัทได้มีการเข้าทำสัญญา Foreign Exchange Forward Contracts เพื่อป้องกันความเสี่ยงทางด้านอัตราแลกเปลี่ยนของ Trust Receipt เต็มจำนวน
เจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่น : เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมารวม 148.78 ล้านบาท ซึ่งเกิดจาก
กลุ่มธุรกิจเหล็ก :
- เป็นเจ้าหนี้ค่าก่อสร้างซึ่งเกี่ยวข้องกับการขยายโรงงานอุตสาหกรรมจำนวน 66 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการผลิตสินค้าให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับคำสั่งซื้อการผลิตสินค้าแบบ OEM ในปี 2565
กลุ่มธุรกิจพลังงาน :
- เป็นเจ้าหนี้ค่าแผงโซลารเซลล์ อุปกรณ์และค่าก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างระบบผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีแผนจะ COD ในไตรมาสที่ 2 ปี 2565 รวมจำนวนกว่า 92 ล้านบาท
หนี้สินหมุนเวียนอื่น : เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมารวม 83.95 ล้านบาท สามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้
กลุ่มธุรกิจพลังงาน :
- การเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นหนี้สินค้างชำระให้แก่กรมสรรพากรในต่างประเทศได้แก่ ภาษีเงินได้จากการขายเงินลงทุนในบริษัทย่อยแบบมีกำไร (Capital Gain Tax) จำนวน 12 ล้านบาท / ภาษีบริโภคที่เกิดจากการขายโครงการ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จำนวน 2 โครงการในเดือนธันวาคม 64 รวมจำนวน 35 ล้านบาท และภาษีขายที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระจำนวน 11 ล้านบาท
- กลุ่มบริษัทได้รับเงินมัดจำค่าโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้างจำนวน 3 โครงการจากผู้ซื้อที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันรวม 60 ล้านเยน หรือเทียบเท่า 18 ล้านบาท
- บริษัทได้หักเงินประกันการก่อสร้างระบบผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากผู้รับเหมาในประเทศไทยรวม 7.3 ล้านบาท ซึ่งต้องคืนให้แก่ผู้รับเหมาเมื่อครบกำหนดระยะเวลาประกันผลงานตามสัญญา
รายการอื่นๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงในหนี้สินนั้นเป็นไปตามธุรกิจปรกติและไม่มีสาระสำคัญในภาพรวม และเมื่อพิจารณา % common size ของแต่ละรายการเมื่อเทียบกับหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้นรวมมิได้เปลี่ยนแปลงอย่างเป็นสาระสำคัญจากปีที่ผ่านมา
การวิเคราะห์ส่วนของผู้ถือหุ้นรวม
งบแสดงฐานะการเงินรวม | 31 ธ.ค. 2564 | % common size | 31 ธ.ค. 2563 | % common size | เปลี่ยนแปลง | % |
---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนของผู้ถือหุ้น | ||||||
ทุน | 800.00 | 8.1% | 800.00 | 7.9% | - | 0.0% |
ส่วนเกินมูลค่าหุ้น | 380.85 | 3.8% | 380.85 | 3.7% | - | 0.0% |
ส่วนต่ำกว่าทุนจากการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทย่อ | (5.52) | -0.1% | (5.52) | -0.1% | - | 0.0% |
กำไรสะสม | (405.10) | -4.1% | (300.14) | -2.9% | (104.96) | 35.0% |
องค์ประกอบอื่นของส่วนของส่วนของผู้ถือหุ้น | (53.67) | -0.5% | (52.86) | -0.5% | (0.82) | 1.5% |
ส่วนของผู้ถือหุ้นที่เป็นของบริษัท | 716.56 | 7.2% | 822.33 | 8.1% | (105.77) | -12.9% |
ส่วนของผู้มีส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุมของบริษัทย่อย | 99.43 | 1.0% | 98.91 | 1.0% | 0.52 | 0.5% |
รวมส่วนของผู้ถือหุ้น | 815.99 | 8.2% | 921.24 | 9.0% | (105.26) | -11.4% |
รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น | 9,898.99 | 100.0% | 10,189.90 | 100.0% | (290.91) | (290.91) |
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 256 และ 31 ธันวาคม 2563 บริษัทมีส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 8 15.99 ล้านบาท และ 971.72 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งลดลงเป็นจำนวนสุทธิ 105.26 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากผลการดำเนินงานที่ติดลบในปีปัจจุบัน
รายงานวิเคราะห์กระแสเงินสดรวม
เงินสดและราชการเทียบเท่าเงินสดคงเหลือของกลุ่มบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 มีจำนวน 107.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาจำนวน 26.09 ล้านบาท ซึ่งสามารถวิเคราะห์สาเหตุของการเพิ่มขึ้นได้ดังนี้
กระแสเงินสดรวม | ล้านบาท |
---|---|
เงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมดำเนินงาน | 295.13 |
เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมการลงทุน | 94.80 |
เงินสดสุทธิใช่ไปในกิจกรรมจัดหาเงิน | (355.12) |
ผลค่างจากอัตราแลกเปลี่ยน - แปลงค่า | (16.26) |
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด เพิ่มขึ้น | 18.55 |
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ต้นงวด | 80.95 |
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดที่จัดประเภทเป็นสินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย - สุทธิ | 7.54 |
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ปลายงวด | 107.04 |
เงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมดำเนินงานจำนวน 420.4 ล้านบาท เกิดจากผลการดำเนินงานสำหรับปีทำให้เงินสดเพิ่มขึ้นจำนวน 304.74 ล้านบาท ปรับปรุงด้วยการเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์และหนี้สินดำเนินงานในระหว่างปีเพิ่มขึ้นจำนวน 115.66 ล้านบาท
เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมการลงทุนจำนวน 30.73 ล้านบาท เนื่องจากสาเหตุหลักดังนี้
- บริษัทย่อยในต่างประเทศนำเงินฝากธนาคารไปเป็นหลักประกันเพิ่มขึ้นจำนวน 148.6 ล้านบาท
- บริษัทย่อยได้มีการจ่ายชำระเงินค่าซื้อทรัพย์สินถาวรในระหว่างปีเป็นจำนวน 314.4 ล้านบาทคือการขยายโรงงานผลิตสินค้าของธุรกิจเหล็ก และ การลงทุนในระบบผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับโครงการ Private PPA
- กระแสเงินสดรับจากการขายเงินลงทุนและ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์รวม 417.7 ล้นบาท
เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมจัดหาเงินจำนวน 355.12 ล้นบาท สาเหตุหลักเกิดจาก
- บริษัทฯ ได้ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินตามกำหนดเวลาและคืนหนี้สินทั้งจำนวนสำหรับ โครงการโรงไฟฟ้าทั้ง 4 แห่ง และชำระคืนหนี้สินให้แก่บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกันรวมทั้งสิ้น 621 ล้านบาท
- บริษัทจ่ายชำระหนี้สินตามสัญญาเช่ารวม 43 ล้านบาทและค่าใช้ง่ายในการขยายระยะเวลาการไถ่ถอนหุ้นกู้รวม 10.7 ล้านบาท
- บริษัทฯ ได้รับเงินกู้ยืมธนาคารจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในระหว่างปีเป็นจำนวน 313 ล้านบาท