คำอธิบายและการวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ

การวิเคราะห์และคำอธิบายของฝ่ายจัดการ

คำอธิบายและวิเคราะห์ฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงาน สำหรับปี 2565

สรุปบทวิเคราะห์ของผู้บริหาร

ผลการดำเนินงานในปี 2565 ของกลุ่มบริษัท เซน สตีล อินซัสทรี้ จำกัด (มหาชน) นั้นเป็นปีที่สะท้อนถึงผลการดำเนินงานของการลงทุนในบริษัทย่อยซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจพลังงานในต่างประเทศซึ่งเกิดผลกำไรจากการลงทุนและรับรู้ในปี 2565 กว่า 1,425 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามแผนกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัท อีกทั้งยังมีการต่อยอดการลงทุนในระบบผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย เพิ่มเติมในช่วงที่ค่าไฟฟ้าปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งกลุ่มบริษัทได้รับโอกาสจากพันธมิตรทางการค้าในหลากหลายธุรกิจ โดยได้รับเลือกให้เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายใหฟ้าตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) และสัญญายม แบบ จัดหา และก่อสร้าง (EPC) โดยกลุ่มบริษัทมีความพร้อมในทุกด้าน เช่น ประสบการณ์การลงทุนและพัฒนาโครงการไฟฟ้ากว่า 10 ปี บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ และความพร้อมในด้านของแหล่งเงินทุนเพื่อสนับสนุนการธุรกิจของบริษัทให้เติบโตไปพร้อมกับพันธมิตรทางการค้าอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป จากกลยุทธ์ในการดำเนินงานดังกล่าวส่งผลให้บริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) แล้วรวม 30.56 เมกะวัตต์ซีซี (ซึ่งเป็นโครงการที่ COD ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 รวม 23.9 เมกะวัตต์) และในปัจจุบันนี้กลุ่มบริษัทยังมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างรอ COD ในปี 2566 ทั้งในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างรอการพัฒนา โครงการในประเทศออสเตรเลีย

ธุรกิจเหล็ก มีการขยายตัวสอดคล้องกับความต้องการเหล็กในตลาดที่เพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของภาคธุรกิจในประเทศไทยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา อีกทั้งบริษัทยังเพิ่มหน่วยธุรกิจใหม่ที่เป็นการซื้อขายสินค้าเกี่ยวกับเหล็กทั้งในและต่างประเทศ จากการใช้ความความรู้และความเชี่ยวชาญในการอยู่ในธุรกิจเหล็กมามากกว่า 20 ปี ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจเหล็กสร้างผลกำไรส่วนเพิ่มจากหน่วยธุรกิจใหม่ สำหรับการผลิตเหล็กตามคำสั่งซื้อ ซึ่งบริษัทได้มีการปรับปรุงกระบวนการผลิตและเพิ่มผลิตภัณฑ์เหล็กใหม่ๆ ตั้งแต่ปี 2564 ส่งผลให้ในปีปัจจุบันได้รับคำสั่ง การผลิตเพิ่มมากขึ้นทั้งในส่วนของปริมาณการผลิตและประเภทของสินค้าซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์เหล็กสำเร็จรูปในปี 2565 อีกด้วย

ธุรกิจคริปโตเคอร์เรนซี เป็นธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนไม่มากในเครื่องขุดเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีเพื่อโอกาสในการทำกำไรในระยะยาว อย่างไรก็ตาม มูลค่าของเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีปรับลดลงซึ่งเกิดจากความพยายามในการลดอัตราเงินเฟ้อในต่างประเทศจึงส่งผลให้มูลค่าของเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีทุกชนิดปรับตัวลดลง และบริษัทจึงทำการปรับลดมูลค่าของเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีและเครื่องขุดเหรียญเพื่อให้เป็น ไปตามมาตรฐานการบัญชีที่รับรองโดยทั่วไป ในปีปัจจุบัน

ผลการดำเนินงานในภาพรวมกลุ่มบริษัทมีผลกำไรสุทธิสำหรับปี 2555 จำนวน 1,165.74 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา มีผลขาดทุน 112.44 ล้านบาท และมียอด EBITDA สูงถึง 1,479.38 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงการดำเนินงานที่เป็นไปตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ และมีความพร้อมในทุกด้านเพื่อการเจริญเติบโตในธุรกิจที่ดำเนินงานในปัจจุบันและโอกาสที่จะสร้างผลกำไรเมื่อมีโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ต่อไป

การวิเคราะห์ผลการดำเนินงานรวม

หน่วย : ล้านบาท
ผลการดำเนินงานรวมของบริษัทและบริษัทย่อย YTD 31 ธันวาคม 2565 (ล้านบาท) YTD 31 ธันวาคม 2564 (ล้านบาท) เปลี่ยนแปลง
ธุรกิจเหล็กและอื่นๆ ธุรกิจพลังงานทดแทน รวม ธุรกิจเหล็กและอื่นๆ ธุรกิจพลังงานทดแทน รวม ล้านบาท %
รายได้จากการขายและบริการ 1,138.31 243.81 1,382.12 194.26 862.32 1,056.58 325.55 30.81%
หัก ต้นทุนขายและบริการ (1,024.22) (180.01) (1,204.23) (80.72) (568.57) (649.29) (544.94) 85.47%
กำไรขั้นต้น 114.09 63.81 177.90 113.54 293.75 407.29 (229.39) -56.32%
%กำไรขั้นต้นต่อรายได้ 10.0% 48.8% 12.9% 58.4% 34.1% 38.5% -25.7%  
ค่าใช้จ่ายในการบริการ (97.73) (318.76) (416.49) (52.44) (145.41) (197.85) (218.65) 110.51%
กำไรจากการขายเงินลงทุนและสินทรัพย์ถาวร - 1,425.28 1,425.28 4.05 47.46 51.51 1,373.77 2667.13%
ส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในกิจการร่วมค้า - (0.41) (0.41) - (0.21) (0.21) (0.20) -97.62%
กำไร (ขาดทุน) จากอัตราแลกเปลี่ยน, สุทธิ (2.11) 63.15 61.04 (2.12) (1.27) (3.40) 64.44 -1896.94%
รายได้อื่น 12.47 32.38 44.85 0.64 16.90 17.54 27.30 115.64%
กำไรก่อนต้นทุนทางการเงินและภาษีเงินได้ 26.72 1,265.45 1,292.17 63.67 211.22 274.89 1,017.28 370.06%
ต้นทุนทางการเงิน (80.43) (57.42) (137.85) (95.97) (286.32) (382.29) 244.43 -63.94%
ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 37.04 (25.61) 11.43 (9.13) 4.08 (5.05) 16.48 -326.18%
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (16.68) 1,182.42 1,165.74 (41.43) (78.02) (112.44) 1,278.19 1136.73%
EBITDA     1,479.30     678.67 695.76 102.5%
กำไร (ขาดทุน) ต่อหุ้น (บาทต่อหุ้น)     1.28     (0.13)    
จำนวนหุ้นสามัญถถั่วเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก (ล้านหุ้น)     800.0     800.00    

รายได้รวม

ในปี 2565 กลุ่มบริษัทมีรายได้รวม 1,382.13 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 325.55 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาหรือคิดเป็นร้อยละ 30.81 และกำไรขั้นต้น 177.90 ล้าบบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 12.9 ของรายได้รวม ทั้งนี้ เนื่องจากสัดส่วนรายได้ของทั้ง 2 ปีนั้นมีความแตกต่างกัน ดังต่อไปนี้

ธุรกิจเหล็ก :

  • การขายเหล็ก : ในปีปัจจุบันมีรายได้รวมจากการหน่วยธุรกิจขายเหล็กรวม 645.02 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา มีรายได้เพียง 0.5 ล้านบาท ซึ่งรายได้ในหน่วยธุรกิจใหม่นี้สร้างผลกำไรส่วนเพิ่มประมาณ 9.8 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

ธุรกิจพลังงานทางเลือก :

  • PPA ต่างประเทศ : รายได้จากการขายไฟฟ้าตามสัญญา PPA ในต่างประเทศปรับลดลงตามที่บริษัทมีการขายทรัพย์สิน โรงไฟฟ้าหลังงานแสงอาทิตย์และบริษัทย่อยในต่างประเทศ (มีกำลังการผลิต 50.9 เมกะวัตต์) ตามแผนกลยุทธ์ในการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทสามารถส่งมอบได้ตามเงื่อนไข ในไตรมาสที่ 1 ปี 2565 ทำให้รายได้จากการขายไฟฟ้า ในต่างประเทศรับรู้เพียง 2 เทียนในปีปัจจุบันเมื่อเทียบกับ ปี 2564 ที่รับรู้เต็ม 12 เดือน
  • การผลิตสินค้า : รายได้จากการให้บริการรับจ้างการผลิตก็เพิ่มขึ้น จาก 192.89 ล้านบาท ในปี 2564 เป็น 473.01 ล้านบาท ในปี 2565 โดยการเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับการที่บริษัทได้รับคำสั่งการผลิตสินค้าเพิ่มมากขึ้น สืบเนื่องจากการที่บริษัทได้มีการปรับปรุงกระบวนการผลิตสินค้าเพื่อเพิ่มประเภทของสินค้าให้หลากหลายมากยิ่งขึ้นจึงทำให้สามารถรับคำสั่งการผลิตเพิ่มมากขึ้นในปี 2565
  • PPA ในประเทศ : บริษัทได้สำเร็จ COD โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยเพิ่มใน Q4 2565 ปีจำนวน 23.9 เมกะวัตต์ จึงทำให้รับรู้รายได้เพิ่มในงวดดังกล่าว และเมื่อรวมกับโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศไทยที่มีอยู่เดิม ทำให้บริษัทมีโรงไฟฟ้าที่มีกำลังการผลิตที่ COD แล้วรวม 30.5 เมกะวัตต์
  • EPC : รายได้จากการให้บริการให้คำปรึกษาและติดตั้งระบบผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งเป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ โดยในปีปัจจุบันบริษัทได้รับโครงการเพิ่มจึงส่งผลให้มีการรับรู้รายได้มากกว่าปีที่ผ่านมา
    อีกทั้ง ในปีปัจจุบันบริษัทได้ให้บริการบริหารจัดการและบำรุงรักษาโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่นในระยะเวลาสั้นๆ (4 เดือน) ให้แก่ผู้ลงทุนจึงทำให้มีรายได้ส่วนเพิ่มรับรู้ในปี 2565 อีกจำนวน 4.2 ล้านบาท

ธุรกิจคริปโตเคอร์เรนซี : รายได้อื่นๆ จำนวน 20.29 ล้านบาท ในปีปัจจุบันเป็นรายได้จากการให้บริการขุดเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ ซึ่งจะได้รับเหรียญสกุลเงินดิจิทัลเป็นการตอบแทน และขายเหรียญดังกล่าวในจังหวะเวลาที่เหมาะสม ถึงแม้ว่ามูลค่าของเหรียญสกุลเงินดิจิทัล จะมีความผันผวนและปรับลดลงอย่างมากในปีปัจจุบัน บริษัทก็ยังสร้างผลกำไรจากการดำเนินงานในหน่วยงานนี้ โดยในปี 2565 มีกำไร ทั้งสิ้น 2.7 ล้านบาท

กำไรขั้นต้น : ในภาพรวมบริษัทมีกำไรขั้นต้นจากการดำเนินธุรกิจ 177.90 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นต่อรายได้ที่ร้อยละ 12.9 ต่อรายได้ ซึ่งลดลงจากปีที่ผ่านมาทั้งนี้เกิดจากส่วนผสมการขาย (Sale Mix) ของทั้งรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยของแต่ละธุรกิจที่มีความแตกต่างกัน จึงส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นในภาพรวมของบริษัทนั้นเปลี่ยนแปลงไปในทางเดียวกับตามรายได้หลักและอัตรากำไรขั้นต้นของรายได้หลัก กล่าวคือ ในปี 2565 รายได้หลักของกลุ่มบริษัทคือรายได้จากธุรกิจเหล็ก (คิดเป็นร้อยละ 81 ของรายได้รวม) ซึ่งประกอบไปด้วยหน่วยงาน Trading และหน่วยงานการผลิตสินค้าตามคำสั่ง และเมื่อเทียบกับปี 2564 รายได้หลักที่เกิดขึ้นจริงของกลุ่มบริษัทคือรายได้จากการขายไฟฟ้าตามสัญญา PPA (คิดเป็นร้อยละ 76 ของรายได้รวม) ซึ่งธุรกิจเหล็กและธุรกิจขายไฟฟ้านั้นมีกำไรขั้นต้นที่แตกต่างกันตามลักษณะของธุรกิจ

สัดส่วนส่วนผสมการขาย (Sale Mix) ของบริษัทในปี 2565 และ 2554 สามารถแสดงได้ดังนี้

ค่าใช้จ่ายในการบริหาร : ค่าใช้จ่ายในการบริหารนั้นเพิ่มขึ้นรวม 218.65 ล้านบาท (YoY) ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากธุรกิจพลังงานทดแทนที่มีการจ่ายชำระค่าที่ปรึกษาทางการเงิน ค่าที่ปรึกษากฎหมายในต่างประเทศ และค่าใช้จ่ายทางทรงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งมอบโครงการโรงไฟฟ้า และบริษัทย่อยในต่างประเทศ จำนวน 4 แห่งรวมทั้งสิ้น 153.24 ล้านบาท และในระหว่างปีบริษัทได้มีการตั้งค่าเผื่อการด้อยค่าของเงินลงทุนในเครื่องชุดคริปโตเคอเรนซีอีกจำนวน 36 ล้านบาทเนี่องจากราคาของเหรียญสกุลเงินดิจิทัลได้ปรับตัวแสดง และเพื่อให้เป็นไปตามหลักความระมัดระวังตามมาตรฐานการบัญชีที่กำหนด

กำไรจากการขายเงินลงทุนและโครงการโรงไฟฟ้า : กลุ่มบริษัทรับรู้กำไรจากการจำหน่ายโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และบริษัทย่อยในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสามารถส่งมอบตามเงื่อนไขให้แก่ผู้ลงทุนจำนวน 4 โครงการในไตรมาสที่ 1 ของปี 2565 บริษัทมีผลกำไรจากการทำรายการดังกล่าว จำนวน 1,425.28 ล้านบาท (ปี 2564 : 47.46 ล้านบาท) ซึ่งเป็นไปตามแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัท

กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน : ส่วนใหญ่เกิดจากธุรกิจพลังงาน ซึ่งมีเงินกู้ยืมจากบริษัทย่อยในต่างประเทศเป็นสกุลเงินเยน เมื่อทำการแปลงค่าเงินเงินกู้ยืมให้เป็นเงินบาทด้วยอัตราถัวเฉลี่ย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ซึ่งค่าเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนอยู่ที่ร้อยละ 10.2 จึงทำให้มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนและมีภาระหนี้สินจากเงินกู้ยืมน้อยลง

ต้นทุนทางการเงิน

ต้นทุนทางการเงินของกลุ่มบริษัทรวมลดลง 244.53 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากธุรกิจพลังงานจ่ายชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินหลังจากที่ได้มีการขายโครงการโรงไฟฟ้าและบริษัทย่อยในต่างประเทศและไถ่ถอนหุ้นกู้ของกลุ่มบริษัท รวมทั้งสิ้นกว่า 2,531 ล้านบาท จึงทำให้ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลง

รายงานวิเคราะห์ฐานะการเงินรวม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 และ 2564

หน่วย: ล้านบาท
งบแสดงฐานะการเงินรวม 31-ธ.ค.-65 31-ธ.ค.-64 เปลี่ยนแปลง %
สินทรัพย์หมุนเวียน 2,382.10 7,697.22 (5,325.41) -69.2%
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน 2,320.87 2,201.77 129.40 5.9%
รวมสินทรัพย์ 4,702.97 9,898.99 (5,196.02) -52.5%
         
หนี้สินหมุนเวียน 2,536.36 8,97208 (6,435.73) -71.7%
หนี้สินไม่หมุนเวียน 230.54 110.92 119.62 107.8%
รวมหนี้สิน 2,766.90 9,083.00 (6,316.11) -69.5%
         
ส่วนของผู้ถือหุ้น 1,936.08 815.99 1,120.09 137.3%
รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น 4,702.97 9,898.99 (5,196.02) -52.5%
อัตราส่วนทางการเงิน        
- Current Ratio 0.94 0.86    
- Debt to Equity Ratio 1.43 11.13    
- Debt to Equity (adjusted) 0.71 9.69    

หมายเหตุ : Debt to Equity (adjusted) เป็นการปรับยอดภาระหนี้สินทั้งหมดหักด้วยเงินฝากธนาคารที่ติดภารค้ำประกันเงินกู้ยืม


ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2555 กลุ่มบริษัทมีสินทรัพย์รวมมูลค่า 4,102.97 ล้านบาท และหนี้สินรวม 2,166.90 ล้านบาท ลดลงจากปี 2564 จำนวน 5,196.02 ล้านบาท และ 6,316.11 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งการลดลงที่สำคัญเกิดจากรายการดังกล่าว

  • การขายเงินลงทุนในบริษัทย่อยและโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งเป็นกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัท จึงทำให้มียอดสินทรัพย์ลดลงรวม 6,014.30 ล้านบาทจากรายการดังกล่าว
  • บริษัทนำเงินที่ได้รับจากการขายเงินลงทุนในบริษัทย่อยและโครงการโรงไฟฟ้าไปใช้ดังต่อไปนี้
    1. ชำระหนี้สินสถาบันการเงินทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ และชำระภาระหนี้สินที่เกี่ยวข้องกับโรงไฟฟ้าในต่างประเทศจึงทำให้หนี้สินหมุนเวียนลดลงรวมกว่า 7,288.27 ล้านบาท
    2. นำเงินไปฝากธนาคารในต่างประเทศในรูปสกุลเงินเยน (เนื่องจากได้รับชำระค่าขายโครงการเป็นสกุลเงินเยน) เพื่อใช้เป็นหลักประกัน ในการเบิกเงินกู้ยืมธนาคารในประเทศไทยเพื่อนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับการขยายธุรกิจและการลงทุนในโครงการใหม่
    3. ในระหว่างงวดบริษัทได้รับเงินสนับส!!นจากสถาบันการเงินเป็นเงินกู้ยืมระยะยาว (Project Finance) สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยรวมจำนวน 171 ล้านบาท

ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 เพิ่มขึ้นเป็น 1,936.08 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 1,120.09 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นผลจากการรับรู้กำไรจากการขายบริษัทย่อยในต่างประเทศและโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์

รายงานวิเคราะห์กระแสเงินสดรวม

งบกระแสเงินสดรวม ล้านบาท
เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมดำเนินงาน (431.59)
เงินสดสุทธิจากกิจกรรมลงทุน 1,878.90
เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมจัดหาเงิน (1,426.22)
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเพิ่มขึ้น (ก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน) 21.09
ผลต่างจากการแปลงค่างบการเงิน (66.68)
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดลดลงสุทธิ (45.59)
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดต้นงวด - กิจการที่ดำเนินงานต่อเนื่อง 107.04
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดสุทธิ - กิจการที่ยกเลิก 6.23
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดปลายงวด - กิจการที่ดำเนินงานต่อเนื่อง 67.68

กระแสเงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมดำเนินงาน

กลุ่มบริษัทมีกระแสเงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมดำเนินงาน จำนวน 431.59 ล้านบาท โดยเป็นกระแสเงินสดใช้ไปในกิจกรรมดำเนินงานในระหว่างปี จำนวน 223.41 ล้านบาท และจ่ายชำระดอกเบี้ยสุทธิและภาษีเงินได้สุทธิรวม 208.18 ล้านบาท

กระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมลงทุน

กลุ่มบริษัทมีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนสุทธิ จำนวน 1,878.90 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากการขายเงินลงทุนในบริษัทย่อยและโครงการ โรงไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่นได้รับเงินทั้งสิ้น จำนวน 3,300 ล้านบาท การนำกระแสเงินสดที่ได้รับไปฝากธนาคารเพื่อการค้ำประกันวงเงินกู้สุทธิ จำนวน 748.46 ล้านบาท และเงินลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าเพิ่มอีก จำนวน 645.98 ล้านบาท

กระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมจัดหาเงิน

กลุ่มบริษัทมีเงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมการจัดหาเงิน จำนาน 1,426.22 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากกลุ่มบริษัทชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน เงินกู้ยืมจากบุคคล/ กิจการที่ไม่เกี่ยวข้องกันในระหว่างงวดทั้งสิ้นสุทธิ จำนวน 2,643.71 ล้านบาท กู้เงินระยะสั้นเพิ่มอีก จำนวน 1,070.76 ล้านบาท เงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารสำหรับ Project Finance จำนวน 171.75 ล้านบาท